M-Commerce
Technology เข้ามาใกล้ถึงตัวรวดเร็วมากขึ้น จากใช้ผ่านมือถือ smart phone
Ubiquitous computing คอมพิวเตอร์เข้ามาใกล้ตัวเรามากยิ่งขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น ทำให้ชีวิตเรามีความสะดวกสบายมากขึ้น
A brief history of Mobile Computing : มีมานานแล้วตั้งแต่ปี 1968 โดยเริ่มจาก Alan Kay คิด project “one laptop per child” และเป็นคนริเริ่ม project “Mobile computing “ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเป็น technology ที่พัฒนาออกมาเร็วเกินไป คนอื่นยังไม่เข้าใจ ยังไม่เกิดการยอมรับในตัว technology
PDA เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้ว กลายเป็น smart phone หมดแล้ว
Importance of Mobile commerce :
• Ubiquity : ใช้ได้ทุกที่ ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ก็จะต้องใช้ในสถานที่ใด สถานที่หนึ่ง แต่ถ้าเป็นมือถือ หรือ tablet จะสามารถพกพานำไปใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
• Convenience : สะดวกสบาย เข้าถึง internet ได้ง่ายมากขึ้น โดยผ่านมือถือ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ตาม
ต่อไป Internet กลายเป็นลักษณะเหมือนไฟฟ้า Internet จะกลายเป็นสินค้าอุปโภคไปเลย
• Instant Connectivity : สามารถเข้าผ่านมือถือได้ทันที ตลอดเวลา ถ้าใช้คอมพิวเตอร์ต้องเสียเวลาในการ boot เครื่อง เนื่องจากว่าคอมพิวเตอร์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อการใช้งาน internet เพียงอย่างเดียว แต่มือถือในปัจจุบันถูกพัฒนาเพื่อการใช้งาน content มากยิ่งขึ้น ทำให้การใช้งาน internet ผ่านมือถือมีความสะดวกมากกว่า
• Personalization : สามารถปรับให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้เองได้
• Localization of products & services : สามารถเข้าถึงข้อมูลได้และเอาข้อมูลมาเป็นของส่วนตัวได้
Drivers of Mobile Computing & M-Commerce
• Widespread availability of mobile devices : คนใช้มือถือกันอย่างแพร่หลาย โดยมากกว่า 50% ของประชากรทั้งโลกใช้มือถือ
• No need for a pc : ใช้มือถือแทนการใช้คอมพิวเตอร์
• Handset culture : เป็น culture ของคนในปัจจุบัน คือ Gen Y ซึ่งเน้นความฉับไว จึงเหมาะกับการใช้มือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์
• Declining prices, increased functionalities
• Improvement of bandwidth : เครือข่าย 3G,3.5G
• Centrino chip : Chip ต่างๆ หรือ Processor มีประสิทธิภาพมากขึ้น กินไฟน้อยลง ทำงานได้เร็วมากขึ้น
• Availability of Internet access in automobile : เช่น GPRS ในปัจุบันอาจจะทำหน้าที่แค่บอกทาง แต่ในอนาคตอาจจะมีบริการอื่นๆ provide เสริมมาด้วย
• Networks : The Service Economy
• Vendor’s Push ขายบริการต่างๆ เช่น ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เน้นการขาย content มากยิ่งขึ้น เพราะตลาดมือถือไม่โตแล้ว กำไรน้อยลง // โทรศัพท์ยุคเก่าคือ voice แต่โทรศัพท์ยุคใหม่ คือ voice+content
• The Mobile Workforce : เครื่องมือที่ใช้ในการทำงานเป็นแบบพวก tablet และไม่จำเป็นต้องทำงานบนโต๊ะใน office เหมือนเดิม
Mobile Computing Infrastructure
• WAP (Wireless Application Protocol) ต้อง set standard ขึ้นมาเพื่อใฟ้คนพัฒนา software , aplplication ที่สอดคล้องกับ WAP
• Markup languages : เป็นภาษาที่ใช้ในการเขียน HTML เป็นภาษาที่เขียนหน้าเวบ , XHTML เป็นภาษาที่เขียนสำหรับมือถือ
• Mobile development
• Mobile Emulators: software ที่ช่วยให้สามารถใช้ program/game ได้
• Microbrowsers : เช่น Android, Safari, IE mobile, Firefox mobile ปัจจุบันสร้าง appication พวกเกมส์จาก Flash Player แต่ในอนาคตจะใช้ HTML5 แทนเพราะไม่จำเป็นต้อง upload ตลอดเวลาเหมือน Flash โดยมี Apple เป็นผู้นำในการพัฒนา HTML5
3G : ของ Dtac , AIS , Truemove ไม่ใช่ใช้ผ่านเครือข่าย 3G แต่รองรับ 3G เฉยๆ TOT กับ imobile ถึงจะใช้ได้จริง
WiMax : เป็น tech ที่คล้าย Wireless ระดับใหญ่ โดยมีเสาไฟฟ้าใหญ่ ส่งสัญญาณ Wireless ครอบคลุมได้ทั้งเมือง แต่ยังไม่เป็นที่นิยม เพราะมีต้นทุนสูง ส่วนใหญ่จึงเน้นพัฒนา 3G มากกว่า
RFID : เป็น chip ที่ใช้ในมือถือ สามรถใช้เป็น wallet ในการชำระสินค้าได้
Operating System ของมือถือ เช่น Android OS พัฒนามาจาก Google , iPhone OS พัฒนามาจาก Apple และ BlackBerry OS พัฒนาเพื่อใช้ในด้านธุรกิจมากกว่า แต่คนไทยเอามาใช้ในการ chat มากกว่า
BB ทำ marketing ในไทยได้ดีมาก ขายได้กว่า iPhone เนื่องจากเค้าใช้ network effect คือ กระตุ้นให้มีการใช้ BB เป็นกลุ่มๆเครือข่าย เช่น กลุ่มเพื่อน ทำให้ BB มี value มากขึ้นและการจะออกจากเครือข่ายนี้ก็มีต้นทุน switching cost
Android OS : Googleเป็นเพียงผู้พัฒนา และขายลิขสิทธิ์ให้กับคนอื่นใช้ มีลักษณะ model คล้าย Microsoft
M-Commerce Business Models
• Usage fee model (subscription based/usage based)
• Shopping Business Models
• Marketing business Models
• Improved Efficiency Models
• Advertising Business Models (Flat fees/Traffic-based fees)
• Revenue-Sharing Business Models
Mobile Banking : ทำธุรกรรมทางการเงินผ่าน Internet เช่น โอนเงิน จ่ายเงิน check statement
iTunes Ecosystem : จะกลายเป็นศูนย์กลางของ Apple ที่ใช้ในการรวม content เช่น เพลง โดยมี concept ว่าผู้ซื้อจะสามารถซื้อของที่มีคุณภาพ ถูกลิขสิทธิ์ ในราคาที่ยอมรับได้ ใน iTunes Store ก็จะมีเพลงหลากหลาย ทั้งเพลงเก่า-ใหม่ และพวกเพลง indy ด้วย ปัจจุบันค่ายใหญ่ เช่น universal ก็มาขายเพลงผ่าน itune เนื่องจากมีฐานลูกค้าที่ใหญ่มาก คือ ประมาณ 65% ของตลาดขายเพลงทั้งหมดใน USA
Q: ทำไม product ของ Apple ถึงชนะ product ของบริษัทอื่นๆ
A: จริงๆ Apple ไม่ได้ขาย software แต่ขาย content เช่นพวก application ต่างๆ ในขณะที่บริษัทอื่นๆจะเน้นขายพวก hardware เช่น feature ต่างๆ
Application ต่างของ iTunes เช่น iBooks เป็นบริการให้อ่านหนังสือออนไลน์ และมี Interactive Book จะเป็นหนังสือนิทาน หนังสือเด็ก โดย target ไปที่กลุ่มเด็ก และ Accessary เช่น case ของ iPhone
Mobile Applications in Sports : ต่อยอดไป product ที่เรารู้จัก เช่น Nike โดยจะมีอุปกรณ์อยู่ในรองเท้า Nike และ iPod จะสามารถช่วย trace ว่าระยะทางการวิ่งได้ และเก็บข้อมูลได้ เป็นรายวัน รายเดือนได้ โดยที่ Nike ก็สามารถ up ราคาของรองเท้าได้ด้วย
QR Code เช่น ของ Oishi
Location-Based Services and Commerce เช่น เข้าไปงานหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์ จะมี sms welcome, promotion ส่งเข้ามือถือทันที
Global Positioning Systems (GPS) : เอาไว้ trace สถานที่ โดยมากจะใช้ประโยชน์ในด้านขนส่ง เช่น ติดไว้ที่รถทัวร์ รถขนส่งสินค้าว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว
FourSquare เป็นบริการ Location-Based Services and Commerce โดยอาจมีการทำ promotion ร่วมไปด้วย เช่นถ้า check in ที่ใดบ่อยๆ ก็จะสามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษหรือได้ส่วนลด
ZAGAT เป็นเวบที่ review ร้านอาหาร
Kindle เป็น tech ที่ใช้สำหรับ e-book
Mobile Enterprise Applications : เป็นส่วนช่วยสำหรับพนักงานที่ต้องออกไปทำงานนอกสถานที่ เช่นออกไปพบลูกค้า หรือทำงานระหว่างการเดินทาง
Technical and other limitations of mobile computing : Insufficient bandwidth , Security standards, Power Consumption และ Cost
No comments:
Post a Comment