Traditional Information System : เป็นระบบสารสนเทศที่มีอยู่ในแผนกต่างๆขององค์กร ข้อเสียที่สำคัญคือ เป็นระบบที่ไม่มีการสื่อสารหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างระบบของแต่ละแผนก
Fragmentation of Data : แต่ละคนต้องการข้อมูลในลักษณะที่ต่างกัน เช่น ผู้บริหารต้องการข้อมูลที่เป็นลักษณะภาพรวมขององค์กร หรือพนักงานขายไม่สามารถรู้ได้ว่าในขณะที่มีการสั่งสินค้านั้นมีอยู่ในโกดังสินค้าหรือไม่
Enterprise Systems จึงมีหลากหลายระบบเพื่อตอบสนองความต้องการที่ต่างกัน เช่น มีระบบที่ช่วยให้พนักงานขายสามารถตรวจสอบสถานะสินค้าได้โดยสามารถ trace ได้ตั้งแต่การผลิตสินค้า และสามารถ update ข้อมูลการขายสินค้าไปยังแผนกบัญชี ซึ่งจะส่งต่อไปยังฝ่ายบุคคลเพื่อคำนวณค่าตอบแทน เป็นต้น
Enterprise Systems จึงมีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์รวมของกระบวนการที่สำคัญขององค์เพื่อให้ข้อมูลสามารถกระจายไปยังทั่วองค์กรได้อย่างไม่มีอุปสรรค โดยจะเน้นที่กระบวนการต่างๆภายในองค์กร และรวมถึง transaction ต่างๆที่เกิดขึ้นระหว่างองค์กรกับลูกค้าหรือ supplier ด้วย
Enterprise Systems – an Example
- ERP-จัดการ บริหารงานภายในองค์กรให้ smooth มากที่สุด
- CRM-เกี่ยวลูกค้า
- Knowledge Management Systems (KM) -ระบบสารสนเทศในการสร้าง/เก็บองค์ความรู้ภายในองค์กร เป็นระบบภายใน
- Supply Chain Management เป็นระบบจัดการตั้งแต่ supplier ไปจนถึงส่งสินค้าไปยังลุกค้า
- Decision Support Systems-ช่วยในการตัดสินใจของบุคลากรระดับต่างๆ/ผู้บริหาร
- Business Intelligence-เป็น software/ระบบ ที่ช่วยส่งเสริมการทำงานต่างๆขององค์กร เช่น OLAP, analytics, data mining, business performance management, and text mining : เป็นเทคนิคที่ Amazon ใช้ในการวิเคราะห์ความต้องการ/ความสนใจของลูกค้าที่เข้ามาใช้งานในเวปไซต์
- Wal-Mart มีระบบ supplier Chain ที่แข็งแกร่งมาก ใครจะมาร่วมธุรกิจกับ Wal-Mart ก็ต้องมีระบบที่สามารถเข้ากันได้กับระบบของ Wal-Mart เพื่อให้สามารถ share ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าระหว่างกันได้
- Inventory Management System (IMS) : ใช้ฟรี ใช้กันอย่างแพร่หลายในไทย
- Fleet Management system ระบบที่จัดการการขนส่งสินค้า วางแผนการ ship ควบคู่ไปกับการวางเส้นทางขนส่ง และมีระบบตรวจเช็ค trace สินค้า และขากลับอาจจะรับขนส่งสินค้าของบริษัทอื่น แทนที่จะขับรถเปล่ากลับกรุงเทพ เพื่อให้ใช้พลังงาน/น้ำมันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด
- Vehicle Routing and Planning วางแผนเส้นทางว่าทางไหนจะประหยัดน้ำมันมากที่สุด/คุ้มค่ากับเวลามากที่สุด
10 IT Trends for Logistics Supply Chain Management
1.Connectivity : 802.11n standard คล้ายๆกับ wireless ที่บ้าน แต่ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างและใช้กับ access point ได้หลายตัว ทำให้กระจายได้ไปไกล
2.Advanced Wireless : Voice & GPS : เชื่อมโยงระบบ GPS กับการสื่อสารด้วยเสียงไว้ด้วยกัน
3.Speech Recognition : การสั่งงานด้วยเสียง
4.Digital Imaging : การประมวลผลภาพ เช่น ใช้แทนการบันทึกข้อมูลลงบนเอกสาร
5.Portable Printing : เครื่องพิมพ์แบบพกพา สามารถพิมพ์เอกสารได้ทุกที่ทุกเวลา
6. 2D & other barcoding advances
7.RFID
8. Real Time Location System; RTLS
9.Remote Management
10.Security
No comments:
Post a Comment